SOMEDAY
DOYOUNG x TEN
BGM : KOR NOTAPOL – สักวัน
(https://youtu.be/VEONGH1_oJA)
*ต้องฟังเพลงนะ ขอร้อง
*ต้องฟังเพลงนะ ขอร้อง
‘แก ตื่นเต้นชิบหายเลยว่ะ’
‘ใจเย็นๆ’
‘อยู่บ้านใช่ป่ะ เดี๋ยวไปหา’
คิมโดยองจอดรถตรงหน้าบ้านหลังขนาดกลาง เขามองรั้วที่เคยเป็นสีขาวแต่เจ้าของบ้านจัดการเพ้นท์จนกลายเป็นรูปทุ่งหญ้า
เตนล์ก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ชอบความซ้ำซากจำเจ แล้วก็เป็นคิมโดยองคนนี้แหละ
ที่ต้องมานั่งตากแดดช่วยอีกฝ่ายละเลงรั้วจนพอใจ
กระถางต้นไม้เล็กๆที่เราช่วยกันเพ้นท์ยังอยู่ที่เดิมแม้คิมโดยองจะไม่ได้มาที่นี่เกือบครึ่งปีแล้ว
เขาผลักประตูรั้วเข้าไป
เดินตรงไปยังตัวบ้าน ไม่ต้องโทรถามก็รู้ว่าตอนนี้เจ้าของบ้านอยู่ที่ไหน
คิมโดยองเดินเข้าไปยังชั้น
2 ตรงไปทางปีกซ้ายของตัวบ้าน
โดยองหยุดอยู่หน้าประตู เขาสูดลมหายใจเข้าออกก่อนจะบิดลูกบิดแล้วผลักมันเข้าไป
เตนล์อยู่ตรงนั้นตามที่เขาคิดไว้
ร่างเล็กหันหน้าเขาหากระจกบานใหญ่ ในมือก็ทาบชุดสูทสีขาวสะอาดลงบนตัว
ใบหน้าน่ารักแสดงสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ไง”เขาทัก
“มาถึงเร็วจัง”
เตนล์หันมายิ้มให้เขา
อีกฝ่ายแขวนชุดสูทลงที่ราวก่อนจะเดินเข้ามาหา คิมโดยองยิ้มกว้างก่อนจะกางแขนออก
เพื่อให้อีกคนเข้ามากอด
“หน้าเครียดเชียว”
“ก็บอกแล้วว่าตื่นเต้น
ทั้งตื่นเต้นทั้งกังวล”
“ไม่มีอะไรหรอกน่า
ทำใจให้สบาย”
“แล้วถ้ามันมีอะ”
“อย่าคิดมาก”
“มันห้ามไม่ได้นี่นา”
เตนล์กอดเขาแน่นขึ้น
คิมโดยองแตะมือลงบนหลังบาง ก่อนจะลูบขึ้นลงเบาๆเพื่อปลอบประโลมให้อีกฝ่ายใจเย็นขึ้น
“งั้นไปที่นั่นกันมั้ย”
“เออ ไปดิ่”
/ / / / / / / / / / / / / / / / / /
/
“ไม่ได้มานานเลยว่ะ
ยังเหมือนเดิมเลย”
เตนล์กวาดสายไปรอบๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา
โดยองยิ้มน้อยๆก่อนจะวางเบียร์หลายสิบกระป๋องที่เขาและเตนล์กว้านซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ
ทุกอย่างที่นี่ยังเหมือนเดิมเสมอ
เหมือนความรู้สึกของเขา
“เราจ้างแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้งเลย”
“จริงดิ่ ดีว่ะ
ถึงว่าไม่มีฝุ่นเลย ถ้ามีฝุ่นเราตายห่าเลยนะ จามจนจมูกพังแน่”
ก็เพราะรู้ไงว่าแพ้
เลยต้องทำความสะอาดบ่อยๆ ถึงแม้อีกคนจะไม่ได้เข้ามาที่นี่นานแล้วก็ถาม
คิมโดยองไม่ได้ตอบอะไร
เขาเพียงแค่แกะเบียร์ในมือแล้วส่งให้อีกฝ่ายที่ตอนนี้เอนตัวลงมาพิงไหล่เขาเรียบร้อย
ที่นี่คือห้องลับที่มี่เขาและเตนล์ที่รู้
เป็นห้องโล่งๆที่โดยองตัดสินใจซื้อไว้ที่คอนโดแถบชานเมือง เป็นเหมือนหลุมหลบภัยที่เต็มไปด้วยความทรงจำ
ถ้าคนอื่นมาเห็นก็คงด่าไปแล้วว่าแต่งห้องบ้าอะไร
ทำไมมันถึงออกมาขัดๆกันแบบนี้ แต่คิมโดยองไม่สนใจหรอก
เขากับเตนล์แค่ต่างคนต่างเอาสิ่งที่ตัวเองชอบมาใส่ไว้ในที่แห่งนี้เท่านั้นเอง
โดยองทอดสายตาไปยังผนังห้องที่มีโปสเตอร์ของ
lana del rey ที่เตนล์ชอบ แต่เขาแม่งเข้าไม่ถึงจริงๆ
ข้างๆกันเป็นโปสเตอร์ของ coldplay ที่เขาโคตรชอบ
แต่เตนล์บอกว่าเพลงโคตรน่าเบื่อ
ผนังอีกด้านมีไฟนีออนรูปนกฟลามิงโก้สีเขียวที่เขาเป็นคนซื้อมาติดเอง
ส่วนหน้ายิ้มสีเหลืองตรงนั้นเตนล์เป็นคนพ่นสเปรย์เองกับมือเพราะตอนนั้นเราทั้งคู่อิน
Sherlock มากๆ
“แกดูรูปนั้นดิ่
ตลกว่ะ”
เตนล์ลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปยังผนังที่เต็มไปด้วยรูปโพลาลอยด์ของเรา
เตนล์ชี้ไปที่รูปนึง เป็นรูปที่เขากำลังหลับ
คนตัวเล็กเลยเอาลิปสติกมาเขียนหน้าเขาเป็นหนวดแมว ก่อนจะถ่ายรูปเก็บไว้
“แกอะ ชอบแกล้งเรา”
“ก็แกชอบนอนหนีเราอะ
คนบ้าไรโคตรขี้เซาเลย”
คิมโดยองยักไหล่
เขากระดกเบียร์ในมือจนหมด แล้วเดินกลับไปนั่งที่โซฟาอีกครั้ง
มือหนากะเทาะบุหรี่ออกมาจากซอง ใช้ปากคาบไว้ก่อนจะใช้ซิปโป้จุดจนปลายบุหรี่ขึ้นเป็นสีแดง
“ดูดบุหรี่อีกละ”
“เอาปะ”
เตนล์ไม่ตอบแต่กลับทิ้งตัวลงบนตักเขาแล้วจับข้อมือเขาไว้
โดยองรู้ดีว่าเตนล์ต้องการอะไร
เขาดึงบุหรี่ออกจากปากตัวเองก่อนจะจ่อที่ปากอีกคน
เตนล์เป็นแบบนี้เสมอ ไม่ชอบจุดบุหรี่เองเพราะขี้เกียจ แต่ชอบมาดูดตัวเดียวกันกับเขาตลอด
คนที่อยู่บนตักเขาพ่นควันบุหรี่ออกมา
ก่อนจะสูบอีกเฮือกใหญ่แล้วหันมาพ่นใส่หน้าเขา
“ไอ้นี่นิ”
คนตัวเล็กขำคิกคัก
สนุกเขาล่ะการแกล้งคนอื่นให้อารมณ์เสียเนี่ย เตนล์เอนตัวใส่เขาทั้งตัว
เราสลับกันสูบจนเหลือแต่ก้นก่อนจะบี้มันลงบนโต๊ะกระจก
“แกมาที่นี่บ่อยป่ะ”
“ก็ เดือนละครั้ง 2
ครั้งมั้ง”
คิมโดยองโกหก เขามาที่นี่เกือบทุกวัน ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน
เขาก็ต้องขับรถมาที่นี่เสมอในทุกวันหลังเลิกงาน มานอนฟังเพลงเฉยๆบ้าง
บางทีก็นอนค้างถ้าเหนื่อยจัดๆ ถ้าเตนล์เดินเข้าไปในห้องนอน
จะพบว่ามีเสื้อผ้าของเขาเต็มไปหมด
“ขยันมาจังวะ
นี่เราไม่ได้มาเป็นปีแล้วปะ”
“ไม่รู้ดิ่ ไม่ได้นับ”
1 ปีกับ 24 วัน
คิมโดยองโกหกอีกแล้ว
เขานับเสมอแหละ
“แล้วแกมากับใครวะ
เคยพาใครมาป่ะ”
“ไม่เคยหรอก
มาคนเดียวตลอด”
คิมโดยองยังคงรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะไม่พาใครเข้ามาเด็ดขาด
เขาจำทุกอย่างที่เคยสัญญาไว้ได้เสมอ แม้เตนล์จะลืมมันไปแล้วก็ตาม
.
.
.
เสียงเพลงที่ดังคลอจากจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงทำให้คิมโดยองคิดถึงเมื่อสมัยก่อน
ตอนที่ยังไม่มีเขาคนนั้นเข้ามา
เรามาที่นี่กันทุกวันเสาร์
เป็นวันที่เราตกลงกันไว้ว่าจะต้องเป็นวันที่เคลียร์คิวตัวเองให้ว่าง
เราตื่นกันแต่เช้าก่อนคิมโดยองจะเป็นคนขับรถไปรับเตนล์ตอน 10 โมง
เราชอบแวะไดรฟ์ทรูเพื่อซื้อเบอเกอร์ ต่อด้วยการกว้านซื้อเหล้า หรือบางทีก็เบียร์ถ้าไม่อยากเมามาก
คิมโดยองมีหน้าที่เป็นคนขับรถ
ส่วนเตนล์มีหน้าที่จัดเพลย์ลิสท์เพลง
เราใช้เวลาทั้งวันอยู่ในห้องนี้ที่เตนล์เป็นคนตั้งชื่อให้ว่า ‘หลุมหลับภัย’
เรามักจะนั่งดื่มเบียร์กันบนโซฟา
ฟังเพลงจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ซื้อมาจากอีเบย์ด้วยราคาที่แพงโข คุยกันเรื่องไร้สาระ
หรือบางทีก็เถียงกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง อย่างเช่นเรื่อง ‘เชอร์ล็อครักวัตสันแบบไหน’
เชื่อเถอะเพราะเรื่องนี้แหละ ทำให้เราทะเลาะกันครั้งแรกเพราะโดยองให้ความเห็นฝั่ง
รักแบบเพื่อน ส่วนเตนล์ให้น้ำหนักฝั่งเชอร์ล็อครักหมอวัตสันแบบผู้ชายคนนึงที่มีความรัก
พอเขาพูดถึงไอรีนแอดเลอร์ เตนล์ก็บอกว่าไม่เห็นเกี่ยวกัน
เขาจำได้หมดนั่นแหละ
ทุกเรื่องราว คิมโดยองไม่มีทางลืมหรอก รวมไปถึงจูบแรกของเรา
วันนั้นเขาและเตนล์อยู่ในห้องน้ำ
เรานั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเพราะเตนล์พึ่งดู The Lure มาแล้วเกิดอยากเป็นนางเงือกขึ้นมา
เลยชวนเขามานั่งในอ่างอาบน้ำที่เปิดน้ำไว้จนเต็ม
เราถอดเสื้อผ้าจนไม่เหลืออะไรติดกายก่อนจะลงไปนั่งเบียดกันในอ่างอาบน้ำ
“แกว่าเงือกแม่งจะมีจริงปะวะ”
โดยองที่กำลังจะตอบว่าไม่มีแต่ดันหันไปเห็นใบหน้าคาดหวังของเตนล์ก่อนเลยได้แต่พยักน้า
ทำท่าทีว่าเชื่อ เพื่อความพอใจของเตนล์
คิมโดยองคีบบุหรี่ไว้ที่ปลายนิ้ว
เขาพ่นควันออกมาทางจมูกจนควันคุ้งไปทั่วห้องน้ำ วันนี้คิมโดยองสูบ oris กลิ่นช็อคโกแลต
ส่วนเตนล์สูบกลิ่นมิ้นท์ ความหอมแบบแปลกๆจากควันที่ที่เราทั้งสองปล่อยออกมาลอยฟุ้งในอากาศ
เรามองหน้ากันก่อนจะเป็นเตนล์ที่เคลื่อนใบหน้าเข้ามาก่อน
คิมโดยองทอดสายตามองริมฝีปากของอีกฝ่าย และเป็นเขาที่เข้าไปจูบก่อน
สัมผัสแรกที่โดยองได้รับคือความละมุนละไมของรสชาติบุหรี่ที่ติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเตนล์
เขาไล้ลิ้นไปตามฟันสวย ทั้งเขาและเตนล์ไม่ได้หลับตาเหมือนปกติเวลาคนจูบกัน
แต่เรากลับจ้องตากันอยู่แบบนั้น ปากก็โรมรัน ดูดดึงจนถึงจุดที่เตนล์หายใจไม่ทัน
เลยผละออก
หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดถึงมันอีก
ทั้งเขาและเตนล์ต่างก็นั่งสูบบุหรี่นิ่งๆก่อนจะเป็นเตนล์ที่ชวนเขาขึ้นจากอ่างเพราะเริ่มหนาว
“คิดไรอยู่วะ”
“ก็คิดถึงเรื่องเก่าๆ”
“เรื่องอะไร”
“ตอนที่เรากับแกเถียงกันเรื่องเชอร์ล็อคมั้ง”
“โหยตอนนั้นโคตรโกรธแกเลย
เรายังเถียงกันไม่จบเลยป่ะ แต่แกบอกขี้เกียจเถียงกับเราแล้ว”
“เออ
ถ้าเถียงกันจริงๆ คงยาวอะ”
“แล้วแกจำตอนเราเรียนได้ป่ะ”
เตนล์กำลังพูดถึงเรื่องเก่าๆสมัยมหาวิทยาลัย
ที่เราตัวติดกันจนมีแต่คนเรียกเราว่าคู่แฝด เขาพยักหน้าบ้าง ตอบกลับไปบ้าง
“มองไปไหนวะ
มองหน้าเราดิ่”
เตนล์แตะแก้มเขาก่อนจะออกแรงดันให้หันมามองหน้ากัน
คิมโดยองก้มลงมองคนที่เอนหัวพิงไหล่อยู่
“ไม่อยากมอง”
“ทำไม!”
“เบื่อหน้า”
“คิมโดยอง!”
เขาขำเมื่อเห็นใบหน้างองุ้มของเตนล์
ทั้งเขาและเตนล์ต่างก็จ้องหน้ากันเหมือนกำลังแข่งกันกลายๆว่าใครหันหน้าหนีก่อนแพ้
และก็เป็นเขาที่แพ้เหมือนที่เคย
โดยองไม่สามารถจ้องหน้าเตนล์ได้นานเลยจริงๆ หัวใจเขาเต้นแรงเหมือนจะระเบิดออกมาทุกที
คิมโดยองกำลังจะเบือนหน้าหนี
แต่คนบนตักกลับจับล็อคใบหน้าเขาไว้ไม่ให้หันหน้าหนีไปได้
ใบหน้าที่ห่างกันไม่ถึงคืบทำให้คิมโดยองนึกถึงเรื่องในห้องน้ำอีกครั้ง
เขาสามารถมองแพรขนตาอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน
เขาไล่สายตาตั้งแต่ตากลม ลงไปยังปลายจมูก
และจบท้ายที่ริมฝีปากอิ่ม และครั้งนี้เป็นเขาที่เคลื่อนหน้าเข้าไปก่อน
ในตอนที่ริมฝีปากของเรากำลังจะแตะกัน
เตนล์ก็ผละตัวออกไปเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์
คิมโดยองมองตามคนตัวเล็กที่ลุกออกจากตักเขาไปยังกระเป๋าที่วางไว้แถวประตูหน้าห้อง
ก่อนจะเบือนหน้ามองออกไปนอกระเบียงเมื่อได้ยินเตนล์คุยกับคนปลายสาย
ใช้เวลาไม่นานคนตัวเล็กก็วางโทรศัพท์
ใบหน้าสวยแย้มยิ้มกว้างก่อนจะเก็บของลงกระเป๋า
“เขามารับแล้วหรอ?”
“อื้ม ลงไปส่งหน่อย”
เขาได้แต่ยืนนิ่งอยู่ในลิฟต์ มองตัวเลขที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆจนสุดท้ายจากชั้น
25 ก็ลงมาถึงชั้น 1
เตนล์ปล่อยมือที่เราจับกันไว้แล้วเดินนำออกไป
ทิ้งคิมโดยองคนนี้ไว้ข้างหลัง
คิมโดยองอยากให้คนเรามีความสามารถพิเศษ
อย่างเช่นการย้อนเวลา เขาคงจะเลือกการย้อนไปอยู่ในหลุมหลับภัยซ้ำๆ เพราะมันเป็นที่แห่งเดียวที่เขาได้รู้สึกเหมือนเตนล์เป็นของเขา
แม้จะไม่เคยเป็นและไม่มีทางเป็นเลยก็ตาม
“ขอบใจมากนะโดยอง
สบายใจขึ้นเยอะเลย”เตนล์หันมายิ้มให้
คิมโดยองพยักหน้าก่อนจะยิ้มตอบกลับไป
“เออ อย่าเครียดมาก
แกเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่านะ”
“ไปก่อนนะ
พรุ่งนี้ห้ามสายเด็ดขาดเลย”
“รู้แล้วน่า”
คิมโดยองโบกมือให้เตนล์
ที่เดินข้ามถนนไปยังรถคันหรูที่จอดรออยู่ เขาได้แต่ยิ้มอยู่แบบนั้น
จนเมื่อรถเคลื่อนตัวออกไป คนตัวสูงก็หุบยิ้ม มือหนายกมือขึ้นแตะใบหน้าของตัวเองก่อนจะสัมผัสได้ถึงความชื้นแฉะ
นึกชมตัวเองอยู่ในใจที่สามารถกลั้นน้ำตาได้
เก่งจริงๆ คิมโดยอง
/ / / / / / / / / / / / / / / / /
/ /
9:30 AM
คิมโดยองจอดรถลงตรงหน้าโบสถ์ขนาดเล็ก
การตกแต่งงานทำให้เขาอดหัวเราะออกมาไม่ได้
เพราะมันเหมือนกับที่เตนล์บอกเขาไว้สมัยมหาลัยทุกอย่างตอนเราคุยกันในหัวข้องานแต่งงาน
ว่าเราอยากมีงานแต่งงานกันแบบไหน ยอมเขาเลยจริงๆ
บรีฟงานได้ออกมาตามแบบเป๊ะๆเลย
เขาเดินเข้าไปยังห้องด้านข้างโบสถ์ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมา
กดเข้าไปยังหน้าแชทที่เป็น favorite ตลอดมา
‘เข้าไปหาได้ปะ’
‘ได้ เข้ามาเลย’
เขาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อสูทแล้วผลักประตูเข้าไป
มองกระจกที่สะท้อนเป็นเงาเตนล์ วันนี้เตนล์ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม
และก็ยังยิ้มสวยเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
“เป็นไงบ้าง
หายตื่นเต้นยัง”
“ก็ยังตื่นเต้นอยู่
แต่ไม่เท่าเมื่อวานแล้ว แกอะ มาช้านะ”
“รถมันติด”
คิมโดยองส่งยิ้มให้คนตรงหน้า
ก่อนจะสวมกอดคนตัวเล็กเบาๆเพราะกลัวสูทของอีกฝ่ายจะยับ
“เออนี่อาจจะอยู่ไม่จบงานนะเว้ย
อย่าโกรธนะ”
“เอ้าทำไม”
“’งานเยอะว่ะ”
เรายืนกอดกันอยู่แบบนั้นก่อนจะเป็นเตนล์ผละออกไปก่อนเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู
เป็นคุณแม่ของเตนล์ที่เปิดเข้ามาบอกว่าถึงเวลาแล้ว คิมโดยองโค้งน้อยๆให้เธอก่อนจะวางมือลงบนกลุ่มผมนิ่ม
“สู้ๆนะเว้ย”
“แกจะไม่อยู่จริงดิ่”
“เออ อยู่ไม่ได้จริงๆว่ะ
งานด่วนเลย”
“เซ็งเลย
ให้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวก็ไม่เป็น”
“แกก็รู้ว่าเราไม่ชอบเป็นจุดเด่นอะ”
“อื้อ มากอดอีกทีดิ๊”
โดยองอ้าแขนรับอีกคนที่โถมตัวเข้ามา
พยายามซึบซับความรู้สึกที่คงจะไม่ได้รับแบบนี้อีกแล้วให้ได้มากที่สุด
“เราไปก่อนดีกว่า
เดี๋ยวพ่อแกก็คงเข้ามารับแล้ว”คิมโดยองผละออกก่อนจะเดินถอยหลังออกจากห้องเพื่อต้องการจะเก็บภาพของเตนล์ให้ได้มากที่สุด
เขายกมือขึ้นมาโบกให้อีกฝ่าย ก่อนจะหมุนตัวกลับแล้วเดินออกไป
.
.
.
คิมโดยองสตาร์ทรถแล้วขับออกจากโบสถ์
ก่อนจะหักพวงมาลัยเข้าขางทางเมื่อรู้สึกว่าดวงตาพร่ามัวเกินกว่าจะมองทางเห็น
มือหนาที่กำลงสั่นหยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะลงมือพิมพ์ข้อความลงไปบนแชทที่เปิดค้างไว้
‘แก เรายังไม่ทันได้อวยพรแกเลยว่ะ ลืม’
‘ขออวยพรในนี้แล้วกัน ขอให้ชีวิตแต่งงานของแกมีความสุขมากๆ
อย่าเอาแต่ใจเยอะนะ ไม่มีใครตามใจแกเก่งเหมือนเรานะเว้ย
แล้วก็เวลาทะเลากัน ให้คุยกับพี่เขาดีๆ พี่จอห์นนี่เป็นคนใจเย็น
เราเชื่อว่าพี่เขาจะทำให้แกมีความสุขได้'
‘ไม่ว่ายังไง โทรหาเราได้ตลอดเลยนะถ้ามีปัญหา
อย่าเก็บปัญหาไว้คนเดียว’
‘เรายังอยู่ตรงนี้แหละ ยังเป็นคิมโดยองของแกเสมอ’
‘หลุมหลบภัยก็ยังมีไว้สำหรับแกนะ ถ้าแกว่าง
ไว้เราไปด้วยกันอีกนะ’
รักแกเสมอ : -)’
คิมโดยองปล่อยโทรศัพท์ออกจากมือทันทีที่พิมพ์เสร็จ
เขาไม่ได้ลืมอวยพรหรอก แต่เขาคงไม่สามารถจะอวยพรเตนล์แล้วกลั้นน้ำตาไปด้วยได้จริงๆ
เขาซบหน้ากับพวงมาลัยก่อนจะร้องไห้ออกมาเมื่อรู้สึกว่ากลั้นมันไม่ไหวอีกต่อไป
โกหกทั้งเพแหละที่ติดงาน
คิมโดยองเคลียร์งานทั้งอาทิตย์นี้หมดแล้ว แต่ที่ไม่ได้อยู่ร่วมงานแต่งงานของเตนล์
เพราะเขาไม่อยากเห็นเตนล์ที่กำลังจะมีความสุข ไม่อยากเห็นว่าเตนล์ต้องเป็นของคนอื่น
ไม่อยากเห็นสิ่งที่ทำลายความหวังของเขา ความหวังลมๆแล้งๆที่คิมโดยองแอบสร้างมันเสมอในใจ
คิมโดยองยังคงเชื่อเสมอ
ว่าเตนล์จะหันมามองกันบ้าง เขาเลยจะยังรอเตนล์อยู่แบบนี้
เชื่อมันในความรักที่เขามีให้อีกฝ่าย

e n d.

Comments
Post a Comment